what is tpm
เครื่องจักร หัวใจสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรม การมีเครื่องจักรที่ได้ประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งาน ควบคู่ไปกับการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ย่อมช่วยให้กระบวนการผลิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่ช่วยในการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรมสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นก็คือการทำ TPM แต่สิ่งนี้คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

TPM คืออะไร ?
TPM หรือ Total Productive Maintenance คือระบบการจัดการและการบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมแบบทวีผล ที่ทุกคนในโรงงานสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในโรงงาน ประยุกต์ใช้ได้ในโรงงานทุกประเภทที่มีการใช้กำลังคนร่วมกับการทำงานของเครื่องจักร มีเป้าหมายหลักคือ ลดการหยุดทำงานที่ไม่จำเป็น เพิ่มอายุการใช้งานและกำลังการผลิตของเครื่องจักร
ประโยชน์ของการทำ TPM
- เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก ลดการเสียเวลาจากการซ่อมบำรุงฉุกเฉิน
- ลดการสูญเสียวัตถุดิบจากขั้นตอนการผลิตที่ผิดพลาด และประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงฉุกเฉิน
- ช่วยให้เครื่องจักรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
- เสริมสร้างองค์ความรู้ให้พนักงานใช้งานเครื่องจักรได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างปฏิบัติงาน
- ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร ลดความจำเป็นในการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่บ่อย ๆ
ขั้นตอนการทำ TPM มีอะไรบ้าง ?
จากความหมายและวัตถุประสงค์หลักในการทำ TPM สะท้อนให้เห็นว่ากระบวนการนี้มีความสำคัญต่อโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภทเป็นอย่างยิ่ง แต่การทำ TPM จะไม่เกิดประสิทธิผลตามที่วางแผนไว้เลย หากขาดการวางรากฐานและขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างถูกวิธี ซึ่งขั้นตอนการทำ TPM แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้
1. สร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้ให้กับผู้ปฏิบัติงาน
อันดับแรก ต้องสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานทุกคนให้เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของการทำ TPM จากนั้น จึงจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยแบ่งกลุ่มย่อยตามแผนกเพื่อฝึกทักษะพื้นฐานการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่เกี่ยวข้อง
2. วิเคราะห์สถานการณ์และความเป็นไปของโรงงาน
ขั้นตอนต่อมา เป็นการรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการผลิต อัตราของเสีย เวลาที่สูญเสียไปจากการซ่อมบำรุง เพื่อนำมาประเมินสภาพและประสิทธิภาพของเครื่องจักรทุกเครื่อง รวมถึงทำ SWOT เพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคในการนำ TPM มาใช้
3. วางแผนการดำเนินงาน
ลำดับถัดไป ต้องกำหนดเป้าหมายและ KPI ที่สมเหตุสมผล ระบุระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การวางแผนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม โดยตัวชี้วัดที่สำคัญในการทำ TPM คือ OEE (Overall Equipment Effectiveness) หรือประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร คำนวณจากความพร้อมใช้งาน ประสิทธิภาพการทำงาน และคุณภาพของผลผลิต
4. ดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้
ขั้นตอนการทำ TPM ขั้นตอนสุดท้าย คือการจัดตั้งระบบบำรุงรักษาตามแผน ควบคู่ไปกับการจัดการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานและบำรุงรักษาสำหรับพนักงานอย่างต่อเนื่อง แล้วจึงนำผลลัพธ์ที่ได้มาเก็บรวบรวม วิเคราะห์ และรายงานความคืบหน้า เพื่อขยายผลและนำไปประยุกต์ใช้ในส่วนอื่น ๆ ของโรงงาน

8 เสาหลักในการทำ TPM ที่ผู้ประกอบการต้องรู้
นอกเหนือจากขั้นตอนการทำ TPM แล้ว รากฐานที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือเสาหลักที่จะช่วยให้การทำ TPM เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งประกอบด้วย 8 เสาหลักด้วยกัน ได้แก่
- การบำรุงรักษาอัตโนมัติ เน้นให้พนักงานผู้ปฏิบัติงานดูแลเครื่องจักรด้วยตนเอง เพื่อลดภาระของทีมซ่อมบำรุง
- การปรับปรุงแบบเฉพาะ ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การลดต้นทุนและเพิ่มอัตรา OEE
- การบำรุงรักษาตามแผน โดยวางแผนและดำเนินการบำรุงรักษาเชิงป้องกันตามระยะเวลาที่กำหนด ช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องจักร และลดปัญหาเครื่องหยุดทำงานฉุกเฉิน
- การบำรุงรักษาคุณภาพ มุ่งเน้นการป้องกันปัญหาคุณภาพตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต
- การจัดการอุปกรณ์ในระยะแรกเริ่ม โดยวางแผนและออกแบบระบบการผลิตใหม่ให้มีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น ช่วยลดปัญหาในระยะยาว
- การศึกษาและฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะในการบำรุงรักษา พัฒนาความรู้และทักษะของพนักงานทุกระดับ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
- ความปลอดภัยด้านชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมภายในโรงงาน สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ระบบ TPM ในสำนักงาน ขยายแนวคิด TPM สู่งานสนับสนุนและงานบริหาร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปพร้อม ๆ กันทั้งองค์กร
การนำ 8 เสาหลักนี้มาปฏิบัติอย่างครบถ้วนและสอดคล้องกัน จะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาระบบ TPM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
เพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติ รวมถึงเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรมทุกชนิด ด้วยโซลูชันดี ๆ จาก Mitsubishi FA ผู้นำด้านวิศวกรรมเพื่อโรงงานอุตสาหกรรม มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกต้องและแม่นยำ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ sales@MitsubishiFA.co.th หรือโทร. 02-092-8600